หูอื้อ คือ อาการที่ได้ยินเสียงลดลงหรือได้ยินเสียงไม่ชัดเจน อาจรู้สึกเหมือนมีอะไรอุดตันอยู่บริเวณรูหู หรือได้ยินเสียงดังๆ อยู่ภายในหู เช่น เสียงอื้ออึง เสียงวี้ด เป็นต้น หูอื้ออาจเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ ดังนี้ สาเหตุจากหูชั้นนอก เช่น หูชั้นนอกอักเสบ ขี้หูอุดตัน น้ำเข้าหู สาเหตุจากหูชั้นกลาง เช่น หูชั้นกลางอักเสบ หูน้ำหนวกไม่เท่ากัน ประสาทหูเสื่อม สาเหตุจากหูชั้นใน เช่น โรคหินปูนในหูชั้นใน โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน ประสาทหูเสื่อม สาเหตุจากระบบประสาท เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง สาเหตุจากยา เช่น ยาปฏิชีวนะบางชนิด ยาลดความดันโลหิตบางชนิด สาเหตุจากอุบัติเหตุ เช่น บาดเจ็บที่ศีรษะหรือหู หากมีอาการหูอื้อ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที การรักษาหูอื้อขึ้นอยู่กับสาเหตุของหูอื้อ หากเกิดจากสาเหตุที่สามารถรักษาได้ อาจสามารถรักษาให้หายขาดได้ หากเกิดจากสาเหตุที่ไม่สามารถรักษาได้ อาจต้องใช้อุปกรณ์ช่วยฟังหรือวิธีการอื่นๆ เพื่อช่วยในการได้ยิน

วิธีป้องกัน รวมถึงรักษาอาการหูอื้อ

กำจัดขี้หู อาการหูอื้อบางครั้งอาจเกิดจากการมีขี้หูอุดตัน ดังนั้นการกำจัดขี้หูออกจึงเป็นวิธีแก้หูอื้ออีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ สำหรับคนที่มีอาการหูอื้อ ขอให้หลีกเลี่ยงการแคะหูด้วยตัวเอง แต่ให้พบแพทย์เพื่อทำการกำจัดขี้หูออกให้ ซึ่งจะปลอดภัยและช่วยแก้หูอื้อได้มากกว่า รวมทั้งยังเป็นการไปหาสาเหตุของอาการหูอื้อที่ถูกต้องและตรงจุด ซึ่งจะช่วยแก้หูอื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ เอียงศีรษะเพื่อเอาน้ำในหูออก ถ้ารู้สึกเหมือนน้ำเข้าหูและทำให้หูอื้อ ควรเอียงศีรษะข้างที่มีน้ำเข้าหูลงต่ำ ดึงใบหูให้กางออกและเฉียงไปทางด้านหลัง ซึ่งจะทำให้ใบหูราบตรง ต่างจากลักษณะปกติที่ใบหูจะเป็นรูปตัว S คราวนี้น้ำก็จะไหลออกจากหูได้สะดวก และส่วนมากก็จะพาเอาอาการหูอื้อหายไปด้วย ทว่าหากใครยังหูอื้ออยู่ เคสนี้ต้องขอให้ไปพบแพทย์เฉพาะทางแล้วล่ะค่ะ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ประสาทหูที่เสื่อมเฉียบพลันก็ต้องการการฟื้นฟูเหมือนอวัยวะอื่น ๆ เช่นกัน ดังนั้นคนที่หูอื้อไม่ยอมหาย ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนของตัวเองบ้างก็ดี โดยพยายามนอนก่อน 4 ทุ่ม หรือพักผ่อนไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน วิธีป้องกันหูอื้อ หลีกเลี่ยงการฟังเสียงดัง สวมที่อุดหูหรือหูฟังเพื่อป้องกันเสียงดัง ดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ไม่ป่วยง่าย หลีกเลี่ยงการแคะหรือปั่นหูบ่อยๆ รักษาโรคประจำตัวให้เรียบร้อย